Cardiopulmonary Resuscitation (CPR) หรือการช่วยฟื้นคืนชีพหัวใจ สั้น ๆ ก็คือการปั๊มหัวใจนั่นแหละ เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน ซึ่งสามารถกำหนดความเป็นความตายของคน ๆ หนึ่งได้เลย วิธีการนี้จะมีความสำคัญอย่างมากเมื่อการเต้นของหัวใจหรือการหายใจของใครบางคนสะดุดหรือหยุดลง
ดังนั้นในวันนี้เราจะมาแนะนำ CPR ที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับใช้ช่วยชีวิตคนในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากรู้ไว้และสามารถทำได้อย่างเชี่ยวชาญ คุณอาจจะเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ใครบางคนรอดชีวิตและทำให้เขาได้กลับไปหาคนที่รักได้
1. ปลอดภัยไว้ก่อนและจัดระเบียบสภาพแวดล้อมรอบตัว
ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนของ CPR ให้สำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายอื่น ๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่นั้นปลอดภัยพอสำหรับการทำ CPR ซึ่งอาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ปัจจัยต่าง ๆ อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อทั้งคุณและผู้ป่วยได้ เช่น การจราจร อัคคีภัย น้ำ หรือไฟฟ้า ความปลอดภัยของผู้ช่วยชีวิตเป็นสิ่งสำคัญมาก หากผู้ช่วยชีวิตบาดเจ็บแน่นอนว่าจะไม่สามารถช่วยเหลือเหยื่อได้
2. ตรวจสอบการตอบสนองของผู้ป่วย
เข้าหาผู้ป่วยอย่างรวดเร็วและเขย่าไหล่แรง ๆ พร้อมกับตะโกนถามให้เสียงดังที่สุดว่า “คุณสบายดีไหม คุณโอเคไหม” ขั้นตอนนี้ช่วยให้แน่ใจว่าผู้ป่วยนั้นต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง สำหรับทารก การสะบัดเบาๆ ที่ฝ่าเท้าสามารถทำให้เด็กจั๊กจี้ได้ง่าย หากบุคคลนั้นแสดงอาการเคลื่อนไหว พูดอู้อี้ในลำคอ หรือลืมตา พวกเขาอาจไม่จำเป็นต้องทำ CPR
3. โทรขอความช่วยเหลือ
หากบุคคลนั้นไม่ตอบสนองอย่างน้อย 10-20 วินาทีแสดงว่าตอนนี้ร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้และมีโอกาสที่หัวใจจะหยุดเต้น ให้โทรหาหมายเลขฉุกเฉินหรือเรียกกู้ภัยโดยทันที พร้อมทั้งเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับสภาพของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด แต่หากคุณอยู่คนเดียวและไม่โทรได้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ให้รีบทำ CPR และพยายามโทรขอความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
4. สร้างทางเดินหายใจให้ผู้ป่วย
สิ่งนี้เรียกว่าเทคนิค Head-Tilt, Chin-Lift ทำได้ด้วยจัดท่าผู้ป่วยให้หลังอยู่บนพื้นเรียบและมั่นคง ค่อยๆ เอียงศีรษะไปข้างหลังโดยวางมือข้างหนึ่งไว้บนหน้าผาก แล้วใช้สองนิ้วจากมืออีกข้างหนึ่งยกคางขึ้น เทคนิคนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีทางเดินอากาศที่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย หากคุณสงสัยว่าผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บที่คอ ให้พยายามเปิดทางเดินหายใจโดยการขยับกรามโดยไม่ขยับคอ
5. รับรู้ถึงลมหายใจของผู้ป่วย
วางหูของคุณใกล้กับปากและจมูกของผู้ป่วย ใช้เวลาอย่างน้อย 10 วินาทีในการสังเกตการเคลื่อนไหวของหน้าอก ฟังเสียงลมหายใจ และรู้สึกถึงลมหายใจ การหายใจหอบเป็นพัก ๆ ไม่ใช่การหายใจปกติควรรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่หากไม่มีสัญญาณของการหายใจ ก็จำเป็นต้องไปยังขั้นตอนต่อไป
6. การกดหน้าอก หัวใจของการทำ CPR
ประสานนิ้วของคุณโดยวางส้นมือด้านล่างไว้ตรงกลางหน้าอกของผู้ป่วยระหว่างหัวนม ยืดข้อศอกให้ตรงและใช้น้ำหนักช่วงบนกดทับ กดลงไปให้หนักและเร็วให้ลึกอย่างน้อย 2 นิ้ว (5 ซม.) โดยตั้งเป้าที่อัตราการกด 100-120 ครั้งต่อนาที สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการปล่อยให้หน้าอกดีดตัวได้เต็มที่หลังจากการกดแต่ละครั้งเพื่อให้หัวใจได้เติมเลือด
สำหรับทารก ให้ใช้สองนิ้ววางไว้ใต้เส้นหัวนมเพื่อให้ได้ความลึกประมาณ 1.5 นิ้ว
7. ฟื้นฟูการไหลเวียนของออกซิเจน
หลังจากการกดหน้าอกทุกๆ 30 ครั้ง ให้ช่วยผู้ป่วยหายใจ 2 ครั้ง โดยการบีบจมูกปิดปากแต่ให้เปิดเล็กน้อย ใช้ริมฝีปากของคุณปิดปากผู้ป่วยและเป่าลมเข้าไปในปากของผู้ป่วยเต็ม ๆ จนกว่าหน้าอกของผู้ป่วยยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับทารก ให้ปิดปากและจมูกด้วยปากของคุณ แล้วปล่อยลมเบา ๆ สั้น ๆ
ทำรอบ 30:2 ต่อไป (กด 30 ครั้ง: หายใจ 2 ครั้ง) จนกว่าสัญญาณของการหายใจจะกลับคืนมา และทำจนกว่าความช่วยเหลือทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญจะมาถึง หรือจนกว่าคุณหมดแรงเกินกว่าจะทำต่อได้
บทสรุป
การทำ CPR อย่างถูกต้องและทันท่วงที จะส่งผลต่อผลลัพธ์ของการรอดชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ ทุกๆ นาทีที่ผ่านไปโดยไม่มีการทำ CPR โอกาสรอดจะลดลง 7-10% ด้วยความรู้และความมุ่งมั่น คุณสามารถเป็นฮีโร่คนแปลกหน้า ซึ่งอาจช่วยชีวิตใครบางคนในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดได้ การจัดการฝึกอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อฝึกและจำลองเหตุการณ์ในห้องเรียนเป็นวิธีที่สำคัญในการส่งที่จะทำให้ผู้ที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นสามารถทำได้ถูกวิธีและมีความมั่นใจเมื่อเจอกับสถานการณ์จริง